เริ่มเบื่อ กับ การออกกำลังกาย ทำไงดี

สำหรับคนที่เริ่มรู้สึกเบื่อกับการออกกำลังกาย แบบเดิมๆ ที่เคยทำเป็นประจำ และที่สำคัญงานก็ยุ่งพอสมควร จึงไม่ค่อยมีเวลา ผมเกรงว่าจะขาดแรงจูงใจ และพาลเลิกออกกำลังกายไปก่อน ช่วยคิดหน่อยครับว่าผมควรทำยังไงกับสถานการณ์ตรงนี้ดีครับ เพื่อที่จะแบ่งเวลา และรู้สึกอยากออกกำลังกายตลอดเวลา

ผมคิดว่าหลายๆคน คงมุ่งมั่นขยันทำงาน เก็บเงิน เพื่อมีครอบครัว มีลูกหลาน อยากดูลูกหลานตัวเองรับปริญญา อุ้มหลานตอนแก่ ตอนปลายของชีวิตคงไม่อยากเอาเงินที่เก็บหอมรอบริบมาทั้งหมด หมดไปกับการรักษาตัวเอง หมดค่าหมอ และค่ายา ใช่มั้ยครับ

โอ้ย! เป็นกันทุกคนแหละครับ สถานการณ์ลักษณะนี้ เมื่อมาถึงจุดหนึ่งของการออกกำลังกาย บางคนจะเริ่มรู้สึกเบื่อ และท้อกลางคัน บวกกับหนุ่มวัยทำงานที่ต้องมาเจอภาระงานหนัก แบ่งเวลาไม่ได้ เลิกออกกำลังกายไปเลยหลายคนครับ เป็นเรื่องปกติที่ไม่ปกติ ที่ผมต้องบอกอย่างนี้ก็คือ ลองมองและคิดดูง่ายๆ ว่า จริงๆแล้ว จุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายของชีวิตเราคืออะไรกันแน่ ?

ผมว่าหลายๆคนน่าจะได้มีความสุขกับบั้นปลายชีวิต ที่อุตส่าห์ทำงานหนักมา ถ้าเป้าหมายชีวิตของคนส่วนใหญ่เป็นแบบนี้แล้ว ก็จงให้การออกกำลังกาย เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตได้เลยครับ เพราะว่าการออกกำลังกาย ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของเป้าหมายของชีวิต อย่าลืมนะครับว่าการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บมีต้นทุนถูกกว่าการนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลแน่นอนครับ เห็นตัวอย่างคนดังๆ หลายคน ทั้งโรคความดัน คลอเรสเตอรอล เบาหวาน โรคหัวใจ ฯลฯ จะดีกว่ามั้ยถ้าบั้นปลายชีวิต เราสามารถเดินหลังตรง นอนแล้วไม่ปวดหลัง มีแรงอุ้มลูกหลาน ไม่ต้องนั่งรถเข็น และปราศจากโรคภัยไข้เจ็บทุกโรคที่ผมได้ยกตัวอย่างมา

ลองเพิ่มเป้าหมายการออกกำลังกาย นอกจากการรักษาหุ่นดี มีกล้าม ฟิตเฟริม เป็นเป้าหมายระยะยาว เพื่อคุณภาพชีวิตดูครับ ลองคิดถึงมันบ่อยๆ ว่าตัวเราต้องอุ้นหลานชูขี้นสุดแขนในตอนอายุ 60 ให้ได้ แล้วการออกกำลังกายจะมีแรงจูงใจมากขึ้นเยอะเลยครับ

ที่นี้ถ้าเราไม่มีเวลาหรือเวลาน้อยลง หรือ เริ่มรู้สึกเบื่อเราจะทำยังไงกันดี ?

ไม่ต้องกลัวครับ เดี๋ยวนี้เทคโนโลยี มันไปไกลมากแล้วครับ เดี๋ยวนี้การออกกำลังกายสนุกมากขึ้นใช้เวลาน้อยลง และถ้าผลการวิจัยส่วนใหญ่ของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆเชื่อถือได้จริงก็น่าสนใจมากเลยครับ

 ลองดูตัวอย่าง วิธีการออกกำลังกายที่สนุกและใช้เวลาไม่มากกันครับ

เห็นตัวอย่างคนดังๆ หลายคน ทั้งโรคความดัน คลอเรสเตอรอล เบาหวาน โรคหัวใจ ฯลฯ จะดีกว่ามั้ยถ้าบั้นปลายชีวิต เราสามารถเดินหลังตรง นอนแล้วไม่ปวดหลัง มีแรงอุ้มลูกหลาน ไม่ต้องนั่งรถเข็น และปราศจากโรคภัยไข้เจ็บทุกโรคที่ผมได้ยกตัวอย่างมา

• เครื่องสั่น (WBV – Whole Body Vibration) เดี๋ยวนี้เครื่องลักษณะนี้มีหลายยี่ห้อ เช่น FitVibe, VibroGym, Powerplate ซึ่งแต่ละเครื่องมีลักษณะการทำงานและหลักการเหมือนๆกัน คือสั่น เพื่อกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซี่งใช้เวลาน้อยประมาณ 15-25 นาที ซึ่งให้ผลลัพธ์อย่างไม่น่าเชื่อ





• Exergaming ใช้ศัพท์นี้แล้วอาจจะงง ลองดูเครื่อง Wii ครับ เกมส์ที่เป็นลักษณะกีฬาเล่นแล้วเหนื่อยจริงมี เล่นได้ที่บ้านไม่ต้องเดินทาง แถมตัวโปรแกรมออกแบบมาได้อย่างสนุกทีเดียว มีทั้งเกมส์ workout ฝึก yoga,core muscle, balance หรือ เกมส์ผุ้ฝึกสอนส่วนบุคคล Personal Trainer หรือ Tennis , Golf, dancing เยอะมาก เรียกว่าเล่นได้ไม่มีเบื่อ (เล่นเกมส์ยังไงก็อย่าลืมหาโอกาสไปเล่นกีฬากลางแจ้งบ้างนะครับ)





• Group Aerobic – คลาสแอโรบิคสมัยนี้สนุกกว่าเมื่อก่อนเยอะมากครับ มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเต้น เช่น Latin Dance, Hip hop, Raggae , pole dance (เต้นรูดเสา) หรือจะเป็นการฝึกสมาธิจิตใจ body and mind เช่น Yoga, Tai chi , body balance หรือ ต้องการเหงื่อหยด ก็เป็นพวกคลาสปั่นจักรยานต่างๆ การเล่นคลาสเหล่านี้ มีข้อดีคือ คลาสส่วนใหญ่ใช้เวลาเพียง 45-60 นาทีและทำกันเป็นกลุ่ม ทำให้เกิดความสนุกและแรงจูงใจ





• Workout at home – อันนี้ง่ายและสะดวก ใช้การออกกำลังกายแบบ body weight หรืออาจใช้อุปกรณ์ ง่าย เช่น Swiss ball , สายยางยืด , เสื่อปูนอน หลายคนอาจจะคิดว่าทำยังไง เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนก่อนแล้วครับ คลิปวิดิโอตาม Youtube หรือ โปรแกรมออกกำลังกายในอินเตอร์เน็ท ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เดี๋ยวนี้เทรนเนอร์ส่งโปรแกรมออกกำลังกายให้ผ่าน Blackberry ด้วยเป็นตารางฝึกในแต่ละวัน ต้องทำท่าไหน ใช้น้ำหนักเท่าไหร่ ทำกี่ครั้ง ถ้าบอกว่าไม่มีเวลาทำ หรือทำไม่เป็น ก็ไม่ได้แล้วล่ะครับ

สุดท้ายนี้ขอให้มีกำลังใจต่อไปกับการออกกำลังกายครับ Get stronger ทั้งร่ายกาย จิตใจ และสุขภาพนะครับ

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : redbullrock.com