Plantar fasciitis สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการปวดส้นเท้าจะอักเสบและฉีกขาดของเอ็นที่ด้านล่างของเท้า เป็นอาการความเจ็บปวดที่ก่อให้เกิดที่ด้านในของส้นเท้า พังผืดที่อยู่ใต้เท้าจะทำหน้าที่คอยรับแรงกระแทกเวลาที่เราเดิน ด้วยที่แรงกดดันที่มากจนเกินไป อาจทำให้มีการทำลาย หรือมีการฉีกขาดของกล้ามเนื้อเยื่อ ซึ่งร่างกายเราจะตอบสนองต่ออาการบาดเจ็บนี้โดยการเกิดอาการบาดเจ็บขึ้นทำให้รู้สึกเจ็บ และคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้ว่าต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บนั้นมาจากไหน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็จะขอบอกปัจจัยเสี่ยงที่พึงระวังให้รู้กันนะครับเพื่อนๆ
- กล้ามเนื้อขาดความยืดหยุ่น
- ความอ้วน
- โค้งฝ่าเท้าใหญ่ผิดปกติ
- เดิน วิ่งมากเกินไป
- กิจวัตรประจำวันที่เพิ่มมากขึ้น ที่ไม่เคยทำมาก่อน
แต่อาการที่เราสนใจคืออาการที่บ่งบอกว่ามีการอักเสบแล้วก็รู้สึกเจ็บที่บริเวณใต้ส้นเท้า จะมีอาการปวดมากเวลาที่เราเิดิน 2-3 ก้าวแรกหลังตื่นนอนตอนเช้า หรือหลังจากนั่งรถไปไหนมาไหนนานๆ แต่อาการจะดีขึ้นหลังจากนั้นไม่กี่นาที และอาการจะปวดมากขึ้นหลังออกกำลังกาย ซึ่ง ขณะออกกำลังกายจะยังไม่เจ็บ
การดูแลรักษา โดยการรักษาแบบง่ายๆ ที่สามารถแนะนำกันได้คือการ พักการใช้งานของเท้า ด้วยการลดกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องทำให้เจ็บเท้า ใช้น้ำแข็งประคบหรือจะแช่น้ำเย็นเลยก็ได้ ประมาณ 20 นาทีซึ่งวิธีนี้จะ 4 ครั้งต่อวัน มีการบริหารเกล้ามเนื้อให้เกิดความยืดหยุ่น การกินยาลดการอักเสบ จะช่วยลดอาการเจ็บและอาการอักเสบได้เป็นอย่างดี แต่ต้องต้องทานยาติดต่อกันอย่างน้อย 14 วัน โดยภายใต้การดูแลของหมอ หรือปรึกษา เภสัชกร นะครับ
การใช้อุปกรณ์ช่วย มีการใส่รองเท้าที่มีส้นหนานุ่มขึ้น และมีแผ่นลดแรงกระแทก จะช่วยลดอาการเจ็บเวลายืนหรือเดินได้ เพราะการยืนที่รองเท้าแข็งๆ จะทำให้เกิดอาการฉีกขาดแบบเล็กๆ ที่พังผืดได้ หรือการใช้ซิลิโคนนุ่มๆ ก็ช่วยคุณได้นะครับ แต่สำหรับบ้างคนอาจจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมที่ต้องสั่งตัดเป็นพิเศษเพื่อเป็นการรักษา นอกจากนี้การใส่อุปกรณ์ยึดข้อเท้าในตอนกลางคืนก็เป็นตัวช่วยหนึ่งสำหรับคนที่มีปัญหาจริงๆ ก็คือขณะเรานอนหลับ ปลายเท้าจะชี้ลง เคยสังเกตไหมครับ ซึ้งลักษณะแบบนี้จะทำให้เกิดอาการเจ็บเท้าขึ้นมาในตอนเช้าๆ จึงจำเป็นต้องใส่อุปกรณ์ดังที่กล่าวครับ
และลองดูวิธีการรักษาแบบฝรั่งกันดูนะครับ พอดีไปเจอวีดีโอที่เกี่ยวข้องกับอาการที่เรียกว่า Plantar fasciitis มาให้ดูกัน
ขอบคุณแหล่งภาพ : howtogetridofstuff.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น